เคยสงสัยไหมว่า ชื่อ ' เดือน ' ทั้ง 12 นี้มีที่มาอย่างไร??
ตั้งแต่ เดือนมกราคม กุมภาพันธ์ มีนาคม เมษายน...ไปจนถึงธันวาคม
วันนี้มาแก้ปัญหาให้แล้ว ว ว !!!
สมเด็จฯ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการ ทรงคิดตั้งชื่อเดือนมกราคม ถึง ธันวาคม ที่ใช้มาจนถึงปัจจุบัน โดยทรงใช้ตำราจักรราศี หรือการโคจรของดาวเคราะห์รอบดวงอาทิตย์ในหนึ่งปี ประกอบด้วย 12 ราศี ตามวิชาโหราศาสตร์มาใช้กำหนดชื่อเดือนทั้ง 12 เดือน
โดยแบ่งเดือนที่มี 30 วัน และเดือนที่มี 31 วัน ให้ชัดเจน ด้วยการลงท้ายเดือนต่างกัน คือ คำว่า "ยน" และ "คม" ส่วนคำนำหน้านั้นมาจากชื่อราศีที่ปรากฏในช่วงเวลานั้นๆ เป็นวิธีนำคำ 2 คำมา "สมาส" กัน คำต้นเป็นชื่อราศี คำหลังคือคำว่า "อาคม" และ "อายน" แปลว่า "การมาถึง" เริ่มตั้งแต่
● มกราคม ---> มกร (มังกร) + อาคม แปลว่า การมาถึงของราศีมังกร
● กุมภาพันธ์ ---> กุมภ์ (หม้อ) + อาพนธ แปลว่า การมาถึงของราศีกุมภ์
● มีนาคม ---> มีน (ปลา) + อาคม แปลว่า การมาถึงของราศีมีน
● เมษายน ---> เมษ (แกะ) + อายน แปลว่า การมาถึงของราศีเมษ
● พฤษภาคม ---> พฤษภ (วัว,โค) + อาคม แปลว่า การมาถึงของราศีพฤษภ
● มิถุนายน ---> มิถุน (ชายหญิงคู่) + อายน แปลว่า การมาถึงของราศีมิถุน
● กรกฎาคม ---> กรกฎ (ปู) + อาคม แปลว่า การมาถึงของราศีกรกฎ
● สิงหาคม ---> สิงห (สิงห์) + อาคม แปลว่า การมาถึงของราศีสิงห
● กันยายน ---> กันย (สาวพรหมจารี) + อายน แปลว่า การมาถึงของราศีกันย
● ตุลาคม ---> ตุล (ตาชั่ง ตราชู) + อาคม แปลว่า การมาถึงของราศีตุล
● พฤศจิกายน ---> พิจิก , พฤศจิก (แมงป่อง) + อายน แปลว่า การมาถึงของราศีพิจิก
● ธันวาคม ---> ธนู (ธนู) + อาคม แปลว่า การมาถึงของราศีธนู
นั่นก็คือ ที่มาของชื่อ ' เดือน ' ในประเทศไทย
ส่วนชื่อ ' เดือน ' ของฝรั่งล่ะ มีที่มาอย่างไร??
ชื่อเดือนของฝรั่งนั้น มีชื่อมาตั้งแต่สมัยโรมัน แต่ส่วนใหญ่มักจะไม่ได้มาจากชื่อของเทพเจ้า แต่มักจะมาจากตัวเลขลำดับที่ของแต่ละเดือนในภาษาโรมัน
● January (มกราคม)
--> เป็นชื่อสำหรับเทพเจ้า Janus ของชาวโรมันโบราณ จึงเรียกเดือนนี้ว่า "Januarius"
● February (กุมภาพันธ์)
--> เป็นชื่อสำหรับเทพเจ้า Februus ของชาวอิตาเลียนโบราณ บางครั้งเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "Februa" เป็นเดือนที่มีเทศกาลเฉลิมฉลองกรุงโรม
● March (มีนาคม)
--> เป็นชื่อเดือนแรกของชาวโรมัน โดยใช้ชื่อของเทพเจ้าสงครามแห่งดาวอังคาร (the war-god Mars)
● April (เมษายน)
--> ชื่อเดือนมาจากคำว่า "Aprilis" มีรากศัพท์มาจากคำว่า "Aperire" หมายถึง "เปิด" (To open) ซึ่งอาจมาจาก "ดวงอาทิตย์"
● May (พฤษภาคม)
--> เป็นเดือนลำดับที่ 3 ในปฏิทินโรมัน ชื่อของเดือนอาจมาจากชื่อของเทพธิดา Maiesta ซึ่งเป็นเทพธิดาแห่งความเกียรติยศ และชื่อเสียง
● June (มิถุนายน)
--> เป็นเดือนลำดับที่ 4 ในปฏิทินโรมัน ชื่อของเดือนเป็นชื่อเทพเจ้า Juno
● July (กรกฎาคม)
--> เป็นเดือนที่กษัตริย์ Julius Ceasar ประสูติ โดยตั้งชื่อเดือนนี้เป็นเกียรติแก่พระองค์ เมื่อปี ค.ศ.44 ซึ่งเป็นเดือนที่ถูกลอบปลงพระชนม์ และเรียกชื่อเดือนนี้อีกชื่อหนึ่งว่า "Quintilis" หมายถึง " เดือนลำดับที่ 5" (the fifth month)
● August (สิงหาคม)
--> ชื่อเดือนเดิมเรียกว่า "Sextilis" มาจากคำว่า "Sexus" แปลว่า "หก" (Six) แต่ภายหลังได้เปลี่ยนเป็นชื่อ Augustus เพื่อเป็นเกียรติแก่กษัตริย์องค์แรกของชาวโรมัน
● September (กันยายน)
--> เป็นเดือนลำดับที่ 7 ในปฏิทินโรมัน มาจากคำว่า "Septem" แปลว่า "เจ็ด" (Seven)
● October (ตุลาคม)
--> เป็นเดือนลำดับที่ 8 ในปฏิทินโรมัน มาจากคำว่า "Octo" แปลว่า "แปด" (Eight)
● November (พฤศจิกายน)
--> เป็นเดือนลำดับที่ 9 ในปฏิทินโรมัน มาจากคำว่า "Novem" แปลว่า "เก้า" (Nine)
● December (ธันวาคม)
--> เป็นเดือนลำดับที่ 10 ในปฏิทินโรมัน มาจากคำว่า "Decem" แปลว่า "สิบ" (Ten)
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น