วันเสาร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2553

ฝนตกทำไมต้องเป็นหวัด

เคยสงสัยกันไหมทำไมเวลาเข้าฤดูฝนทีไร เป็นต้องได้ยินเสียงฮัดชิ้ว ไอ จาม ของคนรอบข้างอยู่เป็นประจำ หรือถ้าศีรษะเปียกฝนต้องรีบกลับมาอาบน้ำ สระผมทันที ไม่เช่นนั้นจะไม่สบาย

โรคหวัด หรือเรียกอีกอย่างว่าโพรงจมูกอักเสบจากการติดเชื้อ สาเหตุเกิดจากเชื้อไวรัส ที่กระจายอยู่เป็นร้อยๆ ชนิดในอากาศ ทุกวันเราต้องสัมผัสกับเจ้าไวรัสพวกนี้อยู่บ้าง แต่เนื่องจากร่างกายของเรามีภูมิต้านทาน และสภาวะแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมต่อการแบ่งตัวของเชื้อไวรัส ทำให้เชื้อไวรัสไม่สามารถทำอะไรเราได้

แต่ถ้าวันไหนท้องฟ้ามืดครึ้ม มีลมแรง พัดไวรัสให้ฟุ้งกระจาย และเราอยู่ในบริเวณนั้นก่อนที่ฝนใกล้จะตก โอกาสที่จะสัมผัสไวรัสก็มีมากขึ้น หรือถ้าโชคร้ายกว่านั้น คือ เราตากฝน ทำให้ศีรษะเปียกชื้น จะทำให้อุณหภูมิที่บริเวณเยื่อบุจมูกลดต่ำลงประมาณ 1-2 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิระดับนี้เหมาะสมที่สุดสำหรับการแบ่งตัวของเชื้อไวรัสที่ตกค้างอยู่ในช่องจมูก ทำให้ภูมิต้านทานของร่างกายไม่สามารถต้านทานเชื้อเหล่านี้ได้ทำให้เราเป็นหวัดนั่นเอง หรือบางทีถ้าเท้าเราต้องแช่อยู่ในน้ำนานๆ หรือเปียกน้ำ อุณหภูมิในเยื่อบุจมูกลดต่ำลง ก็นำไปสู่อาการเป็นหวัดได้เช่นกัน

ฉะนั้นเรามาทราบวิธีป้องกันไม่ให้เราเป็นหวัดเวลาที่ศีรษะเปียกฝนกันดีกว่า

1.อย่าอยู่ในที่โล่งแจ้ง โดยเฉพาะก่อนฝนตก แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ให้ใช้ผ้าปิดปากและจมูกกันไว้

2.หากศีรษะเปียกฝน รีบเช็ดให้แห้งทันที แต่ถ้าจะให้ดีอาบน้ำสระผมไปเลย จากนั้นรีบเช็ดและเป่าให้แห้งโดยเร็ว เพื่อทำให้อุณหภูมิเปลี่ยน และเจ้าเชื้อไวรัสจะแบ่งตัวได้ลำบาก


3.แช่เท้าในน้ำอุ่นหรือรีบทำให้ร่างกายอบอุ่น

4.รับประทานผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงๆ เช่น ฝรั่ง ส้ม แอปเปิ้ล หรือรับประทานวิตามินซีเม็ด เพื่อช่วยเสริมสร้างเซลล์และเนื้อเยื่อที่ถูกทำลายไป

ที่สำคัญ อย่าลืมออกกำลังกาย นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพราะถ้าร่างกายเราแข็งแรงซะอย่างโรคไหนก็ไม่มีทางมากล้ำกรายได้เด็ดขาด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น