วันพฤหัสบดีที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2554

6 เรื่องดี ๆ จากสตรอเบอร์รี่


1.ดูแลสายตา ปัญหาเกี่ยวกับดวงตาส่วนใหญ่จะเกิดจากอนุมูลอิสระ และการขาดสารอาหารบางชนิด และเมื่อเราอายุมากขึ้น ดวงตาของเรายิ่งถูกทำร้ายได้ง่าย ซ้ำร้ายความแก่ชราจะทำให้กล้ามเนื้อดวงตาเสื่อมสภาพ แต่สตรอวเบอร์รี่มีสารต้านอนุมูลอิสระ อย่างวิตามินซี ฟลาโวนอยด์ กรดฟีโนลิก และกรดเอลลาจิก ซึ่งช่วยชะลอกระบวนการดังกล่าว แถมยังมีโพแทสเซียมซึ่งช่วยปรับความดันในตาให้เป็นปกติอีกด้วย

2.ป้องกันโรคข้ออักเสบและโรคเกาต์ เมื่อกล้ามเนื้อถูกใช้งานนาน ๆ เข้า กล้ามเนื้อของเราก็มีแต่จะถดถอยของเหลว บริเวณข้อต่อกระดูก็จะเหือดแห้งลงไปเรื่อย ๆ และร่างกายก็สะสมสารพิษอย่างกรดยูริกเอาไว้มากขึ้น ๆ ทำให้โรคข้ออักเสบและโรคเกาต์ถามหา แต่อย่าห่วงไป เพราะเราสามารถขับไล่โรคทั้งสองได้ด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและสรรพคุณล้างพิษของสตรอวเบอร์รี่

3.กำราบโรคมะเร็ง กินสตรอวเบอร์รี่ทุกวันสิคะเซลล์มะเร็ง และเนื้องอกต้องชิดซ้ายหลีกทางให้แก่สารต้านอนุมูลอิสระอย่างวิตามินซี โฟเลต และแอนโธไชยานินส์ ที่มีอยู่มากมายในสตรอวเบอร์รี่

4.ส่งเสริมการทำงานของสมอง ยิ่งแก่ยิ่งขี้หลงขี้ลืม เพราะเนื้อเยื่อและเส้นประสาทในสมองเสื่อมสภาพจากอนุมูลอิสระตัวร้าย ซึ่งสตรอวเบอร์รี่ช่วยได้ เพราะมีวิตามินซี และไฟโตนิวเทรียนต์ ที่ทำให้อนุมูลอิสระหมดฤทธิ์ และคืนความอ่อนเยาว์ให้แก่ระบบประสาท แถมยังมีไอโอดีนที่ทำให้สมองและระบบประสาททำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย

5.ลดความดันโลหิต หากโซเดียมเป็นตัวการทำให้เกิดความดันโลหิตสูง สตรอวเบอร์รี่ก็มีโพแทสเซียมและแมกนีเซียมที่ช่วยปรับความดันให้เป็นปกติ

6.ปราบโรคหัวใจ ใยอาหารโฟเลต และสารต้านอนุมูลอิสระมากมาย จะช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในร่างกาย แถมวิตามินบีบางชนิดที่พบได้ในสตรอวเบอร์รี่ จะเสริมสร้างกล้ามเนื้อหัวใจให้แข็งแรงอีกด้วย

วันเสาร์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2554

"วิตามินซี" เพื่อสุขภาพ


ประโยชน์หลักๆ เมื่อร่างกายได้รับวิตามินซีเป็นประจำ คือ เพิ่มภูมิต้านทานแก่ร่างกาย ป้องกันการก่อตัวของเซลล์มะเร็ง บำรุงผิวพรรณหรือชะลอความแก่ ป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟันหรือเหงือกอักเสบ
ในทางกลับกัน หากร่างกายเราขาด “วิตามินซี” หรือมีปริมาณวิตามินซีน้อยเกินไป อาจส่งผลทำให้เกิดอาหารเหล่านี้ได้
- เป็นหวัดง่าย ภูมิต้านทานโรคและความสามารถในการกำจัดพิษลดลง
- ผิวหนังขาดความยืดหยุ่น เกิดจุดด่างดำ ฝ้า มีเลือดออกตามไรฟัน
- อ่อนเพลีย ไม่มีเรี่ยวแรง ประสาทสัมผัสด้อยลง
- มีภาวะเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งกระเพาะ ตับ และส่วนอื่นๆ
- ประสิทธิภาพของต่อมหมวกไตลดลง เป็นภูมิแพ้ได้ง่าย
- เป็นโรคโลหิตจาง หรือโรคต่างๆ ง่าย บาดแผลหายยาก หากขาดมากจะเป็นโรคโลหิตเป็นพิษ
- เกิดโรคลักปิดลักเปิด

อย่างไรก็ตาม พึงตระหนักไว้ว่า “วิตามินซี” ... เป็นวิตามินที่มีความสำคัญเช่นเดียวกับวิตามินอื่นๆ และร่างกายไม่สามารถผลิตขึ้นได้เอง ดังนั้น ทุกคนจึงควรบริโภควิตามินซี แต่จะมากหรือน้อยนั้นก็ขึ้นอยู่กับความต้องของแต่ละบุคคล

วันเสาร์ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2554

อาหารธรรมชาติ

ปัจจุบันผู้คนเริ่มให้ความสำคัญและสนใจองค์ประกอบของอาหาร ที่มีผลต่อสุขภาพมากกว่ารส ชาติและหน้าตาอาหารจากธรรมชาติเข้ามามีบทบาทอย่างมากในการดูแลสุขภาพ เพราะไม่ว่าจะเป็นอาการที่มาจากพืชหรือสัตว์ต่างก็มีองค์ประกอบเฉพาะที่มีผลต่อการทำงานของร่างกายในการช่วยป้องกันและรักษาโรคต่างๆ

จากสภาวะความเป็นอยู่ทั้งปัญหาทางสังคม เศรษฐกิจ การเมือง วิถีการดำเนินชีวิต การทำงาน ต่างบั่นทอนพลังกาย พลังสมอง บ่อยครั้งที่เรารู้สึกเหนื่อยล้าอยู่ตลอดเวลา สมองตื้อ ไม่มีสมาธิ ความจำไม่ค่อยดี หากไม่ได้รับการเหลียวแลนานเข้าก็จะส่งผลให้ร่างกายเกิดอาการเจ็บป่วยตามมา ประโยชน์ของโภชนาการเริ่มเข้ามามีบทบาทอย่างมากในการเสริมสร้างสุขภาพและ เพิ่มพลังให้กับสมอง ซึ่งชาวจีนจะนิยมเสริมพลังสมองด้วยการบริโภคอาหารโปรตีนธรรมชาติอย่างซุปไก่ ตุ๋นซึ่งถูกพัฒนามาเป็นซุปไก่สกัดในยุคนี้ มีงานวิจัย จากในหลายๆ ประเทศพบว่า ซุปไก่สกัด มีคุณสมบัติในการช่วยลดความอ่อนล้าของสมอง ช่วยให้สมาธิและความจำดีขึ้น เป็นต้น

มีงานวิจัยของ ศ.นพ.อัสฮาล มูฮัมหมัด ชิน และคณะ ในปี 2008 พบว่า ซุปไก่สกัดมีส่วนช่วยเพิ่มสมาธิ ความสามารถในการทำงานหนัก ฯลฯ หรือ จากการประชุมวิชาการของสมาคมนักกำหนดอาหารแห่งสหรัฐอเมริกา ประจำปี 2001 มีรายงานว่า ซุปไก่สกัดช่วยเพิ่มคลื่นสมองแอลฟา ที่แสดงความมีสมาธิและความรู้สึกสงบของจิตใจ รวมทั้งงานวิจัยของ ดร.นาไก และคณะจากประเทศญี่ปุ่น ในปี 1996 พบว่าซุปไก่สกัดมีส่วนในการเพิ่มสมรรถภาพการทำงานของสมอง เพิ่มความรู้สึกสงบของจิตใจ และลดความเหนื่อยล้าที่เกิดระหว่างการทำงาน

อย่างไรก็ตามวิตามินและเกลือแร่ก็เป็นสารอาหารที่มีความจำเป็นต่อการทำงานของร่างกาย โดยเฉพาะในกลุ่มของวิตามินบี ซึ่งประกอบด้วยบี 1 บี 3 บี5 บี6 และบี 12 ซึ่งเป็นอาหารที่ช่วยให้ระบบต่างๆ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังจำเป็นต่อการทำงานของสมองโดยตรงทั้งนี้ควรให้ความสำคัญกับกรดโฟลิคและธาตุเหล็กควบคู่กันไปด้วย เนื่องจากสารอาหารทั้ง 3 ตัว จำเป็นต้องทำงานร่วมกัน


นอกจากอาหารแล้ว สมุนไพร ดูจะเป็นที่สนใจและได้รับความนิยมอย่างมาก หนึ่งในสมุนไพรจีนซึ่งกำลังเป็นที่สนใจขณะนี้ก็คือ "โสม" ซึ่งมีสารพฤกษเคมีที่ช่วยบำรุงประสาทและสมอง ช่วยเพิ่มประสิทธิภพในการบำรุงร่างกายและจิตใจในสภาวะที่มีการอ่อนเพลียและระยะพักฟื้น รวมทั้ง "ใบแบ๊ะก๊วย" ซึ่งมีสารต้านอนุมูลอิสระที่รายงานว่าอาจช่วยป้องกันอาการเสื่อมของสมอง เสริมสร้างความจำระยะสั้น ระยะยาวและการขาดสมาธิ อย่างไรก็ตามพึงระวังในผู้ป่วยที่มีความดันโลหิตสูงและผู้ที่มีประวัติความผิดปกติของการแข็งตัวของเลือด

อย่างไรก็ตาม ต้องปฏิบัติตนให้มีโภชนาการที่ดีรับประทานอาหารให้ครบมื้อครบหมู่ หลีกเลี่ยงสิ่งเสพติดพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอและพยายามหมั่นฝึกทำจิตใจให้แจ่มใสอยู่เสมอควบคู่กันไปด้วย แล้วคุณจะพบว่า แค่การรู้จักเลือกสรรสิ่งที่ดีมีประโยชน์ให้กับชีวิตด้วยการหันกลับสู่ธรรมชาตินั้นจะให้ผลที่คุ้มค่าและปลอดภัยเพียงใดแก่สุขภาพกายและใจ