วันเสาร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ของหวาน ความอร่อยที่ต้องระวัง

เด็กกับของหวานนี่เป็นของที่แยกกันไม่ได้เลย ความ หวานทำให้เกิดความสดชื่น จนบางคนถือว่าการได้กินของหวานทำให้แจ่มใสมีความสุข และเกิดอาการติดได้ สิ่งที่เกิดขึ้นว่ากันตามหลักวิทยาศาสตร์ก็ไม่น่ามีอะไรที่เป็นปัญหามาก แต่ตามหลักทางพุทธของเราอะไรที่มากเกินไปก็มักมีปัญหาทั้งนั้น

เรื่องของหวาน ๆ นี่ตามธรรมชาติก็เป็นสิ่งที่น่าอภิรมย์สำหรับเด็กและทุกคน เนื่องจากน้ำตาลซึ่งมีรสหวานจะถูกดูดซึมเข้าไปในกระแสเลือด ทำให้น้ำตาลในกระแสเลือดสูงขึ้นมาในระดับที่ร่างกายต้องการ การกินน้ำตาลมักทำให้อารมณ์ดี มีความกระปรี้กระเปร่าแม้ในขณะที่หิวมาก ๆ ก็ยังรู้สึกดีขึ้นมากถ้าได้กินน้ำตาลหรือน้ำหวานสักแก้ว

ปัญหาก็คือเมื่อกินของ ที่มีรสหวานก็จะเกิดความอยากบ่อยขึ้นและจะเกิดการติด ใจเลยกินไม่เลิก ตอนนี้แหละครับลำบาก ในเด็กนี่เร็วมากครับพอได้ลิ้มชิมรสหวานแล้วละก็ ไม่เอาแล้วของรสจืด เลิกกินกันไปเลย ปัญหาก็คือของที่เราป้อนไม่ว่าจะเป็นข้าว นม ก็เป็นของจืดทั้งนั้น เด็กก็เลยพาลไม่ยอมกินกันเลย จะกินแต่ของหวาน นาน ๆ เข้าก็เลยต้องใส่น้ำตาลในอาหารทุกอย่าง หรือแม้แต่นมก็ต้องมีรสหวาน ทีนี้แหละปัญหาก็ตามมาเป็นพรวนเลย

เมื่อเด็กกินของหวานเข้าโดยทั่วไปผู้ใหญ่มักจะคิดว่าเด็กจะกินได้มากขึ้น แต่ในเด็กที่ผอมและกินอาหารยากกลับกินไม่ลง ในทางตรงกันข้ามในเด็กที่อ้วนกลับกินไม่พอ เนื่องจากเด็กที่ผอมระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงขึ้นจะไปทำให้ระดับฮอร์โมน อินซูลินสูงขึ้น เจ้าฮอร์โมนตัวนี้ทำหน้าที่สองอย่างคือทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลงเนื่องจากน้ำตาลถูกนำไปใช้ หน้าที่อีกอย่างก็คือไปกดความต้องการอาหารในเด็ก ในขณะที่เด็กอ้วนนั้นระดับอินซูลินไม่สามารถระงับความต้องการอาหารได้ ก็เลยกินเอา กินเอาไม่ยอมหยุดด้วย ความเอร็ดอร่อย ทีนี้ที่คิดว่าจะแก้ปัญหาให้กินได้มากขึ้นในเด็กผอมก็เลยกลายเป็นสร้างปัญหา ไป นอกจากนี้น้ำตาลหวาน ๆ พวกนี้ก็ยังสร้างปัญหาโลกแตกให้คุณหมอฟันมากเลยค ลองคิดดูว่าถ้าเด็กเล็กโดยเฉพาะที่อายุน้อยกว่า 3 ขวบนี่ จะแปรงฟันทีก็ยากเย็นแสนเข็ญ ถ้าติดนมหวาน ขนมหวาน แถมติดขวดนมอีก แย่แน่ เพราะจะต้องฟันผุแน่นอน ปัญหาเป็นปัญหาใหญ่มากจนทำให้ที่ประเทศสิงคโปร์โฆษณาชวนเชื่อให้เด็กเลิกของ หวานกันเลย แถมในรัฐแคลิฟอร์เนียก็มีข่าวแว่ว ๆ ว่าอาจไม่ให้ขายน้ำโค้ก แสดงว่าเขาเอาจริงแต่ในประเทศเราท่าทางจะยากเนื่องจากความเข้าใจเรื่องนี้มีน้อย ขนาดนมในโรงเรียนยังเป็นนมหวานเลย แต่ก็เป็นที่น่ายินดีที่มีข่าวว่าอีกไม่นาน นมโรงเรียนจะเปลี่ยนเป็นนมจืดทั้งหมดแล้ว แหม น่าดีใจแทนเด็ก ๆ

มีคนมักถามว่าผลไม้หวานๆล่ะกินได้มั้ย คำตอบก็คือว่า ความจริง ถ้ากินผลไม้กันเป็นผล ๆ และกินไม่มากจนเกินไป ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะผลไม้ที่กินทั้งผลมักจะได้กากใยด้วย ซึ่งเป็นผลดีต่อลำไส้และการขับถ่าย แถมทำให้การดูดซึมไม่เร็วไปนัก แต่คนเดี๋ยวนี้ขี้เกียจเคี้ยวกัน จะกินผลไม้ก็ต้องกินแต่น้ำ จะกินผักก็กินแต่น้ำผัก ผมว่าท่าทางจะขี้เกียจเคี้ยวมากไปหน่อย ก็เลยทำให้อดกินของดี ๆ อีกหลายอย่างที่มีในผักและผลไม้ เดี๋ยวนี้เครื่องคั้นผลไม้แบบแยกกากมีขายกันเกร่อ ทำให้กินกันแต่น้ำผลไม้ไม่กินกากกันเลย ความจริงกากผลไม้นั่นแหละของดี ส่วนน้ำผลไม้นั่นไม่เท่าไหร่ มีวิตามินนิดหน่อยกับน้ำตาลก็เท่านั้นเอง ถ้ากินมาก ๆ ไปก็ไม่ใช่ว่าจะดีนะ บางคนกินน้ำผลไม้วันละเป็นลิตร ๆ เลยได้น้ำตาลไปมากเกินควร ก็อ้วนได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น